บรรยากาศด้านหน้าของหอศิลป์เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และเหล่าผลงานรูปปั้นศิลปะ ถ้ามาถึงตรงนี้แล้วหอศิลป์ก็อยู่ด้านหน้าทางขวามือค่ะ เดินไปซื้อตั๋วเข้าชมกันได้เลย
นี่คือบรรยากาศภายนอกหอศิลป์อุฟฟิซิ ด้านหน้าของหอศิลป์ว่านักท่องเที่ยวเยอะแล้ว คนที่รอเข้าชมก็เยอะเช่นกัน มีตั๋วให้จองทางอินเตอร์เน็ทด้วยนะคะ (ราคาสูงกว่าหน้าเคาท์เตอร์นิดๆ) เราว่าจะจองทางเน็ท คิดไปคิดมา มาซื้อเอาที่นี่ดีกว่า ก็เข้าไปซื้อตั๋วด้านใน ราคา 24 ยูโร (ประมาณ 900 บาท ราคานี้เป็นราคาที่ไม่ต้องเข้าคิวค่ะ)
ได้ตั๋วมาแล้วก็มายืนรออีกนิดนึง เพราะเขาจะมีการตรวจกระเป๋าเราตรงประตูทางเข้าก่อนจะได้เข้าไปชมด้านในค่ะ
โถงทางเดินภายในหอศิลป์ค่ะ บนเพดานก็ประดับด้วยภาพวาดสวยงาม ระหว่างทางเดินก็มีรูปปั้นตั้งประดับตกแต่ง และมีเก้าอี้ให้นั่งพักสำหรับผู้เข้าชมบริเวณริมหน้าต่าง ซึ่งถ้ามองออกไปด้านนอกก็จะเห็นทิวทัศน์ของเมืองฟลอเรนซ์
ห้องแรกทีเข้ามาก็จะเป็นการจัดแสดงภาพวาดสมัยยุคกลาง ใครที่ชื่นชอบความงามของศิลปะแนวนี้บอกได้เลยว่าต้องประทับใจมากแน่ๆ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
รูปวาดวีนัสอันโด่งดังเลื่องชื่อ
หลังจากกลับจากกรุงโรมบอตติเชลลีได้รับการว่าจ้างให้เขียนภาพประดับห้องหอของคู่บ่าวสาวในตระกูลเศรษฐีอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะตระกูล Medici ซึ่งเป็นตระกูลของผู้ปกครองเมืองฟลอเรนซ์ เรื่องราวในภาพเขียนประเภทนี้มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ความโรแมนติก หรือวีรสตรีผู้งดงามทั้งรูปลักษณ์และจิตใจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เอามาจากตำนานที่ชื่นชอบและรู้จักกันเป็นอย่างดี และนี่ก็เป็นที่มาของผลงานชุดสำคัญที่สุดของบอตติเชลลี เขาเขียนภาพจากตำนานเก่าแก่ออกมาได้งดงามเกินคำบรรยาย ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดมีอยู่ 4 ภาพ สองภาพแรกคือภาพ The Birth of Venus และ Primavera เป็นผลงานชิ้นเอกสุดประณีตอ่อนหวานมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในบรรดาภาพเขียนทั้งหมดของบอตติเชลลี ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณแห่งยุคเรอเนสซองส์ และปัจจุบันยังจัดแสดงอยู่ในห้องเดียวกันที่หอศิลป์อุฟฟีซี อีกสองภาพได้แก่ภาพ Venus and Mars และ Pallas and the Centaur
ภาพ “Fortitude”
ภาพ “Primavera” หรือ “ฤดูใบไม้ผลิ”: สัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิและการเริ่มต้นของศิลปะเรอเนสซองซ์แบบฟลอเรนซ์ จากซ้ายไปขวา: เทพเมอร์คิวรี, Three Graces, วีนัส, เทพฟลอรา, เทพคลอริส และ เทพเซไฟรัส
เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงห้องจัดแสดงผลงานของนักวาดชื่อดัง เชื่อว่าหลายๆ คนคงหุ้นหูกันเป็นอย่างดีค่ะ
ภาพ “The Adoration of the Magi”
วาดโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งยุคเรอเนสซองส์ เกิดที่หมู่บ้าน Vinci ใกล้เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1452 เขาเติบโตและเรียนศิลปะที่บ้านเกิดจนมีอายุได้ 20 ปีจึงได้เป็นศิลปินมืออาชีพอย่างเต็มตัว เริ่มมีผลงานที่ฉายแววความเป็นอัฉริยะด้านศิลปะด้วยภาพ Adoration of the Magi (ซึ่งก็คือภาพนี้) ก่อนที่จะออกจากฟลอเรนซ์ไปอยู่ที่เมืองมิลานในปี 1482
ภาพ “Venus of Urbino”
นี่ก็เป็นอีกภาพวาดนึงที่โด่งดังมาก ถูกวาดขึ้นโดย Tiziano Vecellio
ทิเชียนเป็นจิตรกรคนสำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 16 ของเมืองเวนิส เขาได้รับการยกย่องในฐานะจิตรกรชั้นยอดตั้งแต่อายุยังน้อยและคงชื่อเสียงระดับสูงสุดไว้ตลอดชีวิตที่ยืนยาว ทิเชียนเกิดราวปี 1488 – 1490 เรียนการเขียนภาพกับศิลปินดังแห่งเมืองเวนิสตั้งแต่อายุ 10 ปี แล้วทำงานเป็นผู้ช่วยของจิตรกรอื่นระยะหนึ่งก่อนที่จะออกมารับงานเองพร้อมกับการพัฒนาสไตล์การเขียนภาพเป็นของตัวเอง ทิเชียนเป็นจิตรกรที่ครบเครื่องมากเขียนภาพได้ดีทุกแนวทั้งภาพเหมือน ภาพภูมิทัศน์ ภาพแนวศาสนา รวมทั้งเรื่องจากตำนาน และมีการพัฒนาเทคนิคและสไตล์การเขียนภาพอยู่ตลอด ภาพ A Man with a Quilted Sleeve เป็นผลงานภาพเหมือนช่วงแรกๆของอาชีพที่ได้รับการยกย่องมาก ทิเชียนเขียนภาพเหมือนชั้นยอดอีกมากมายหลายสิบภาพตลอดช่วงเวลาอีกหลายสิบปีต่อมา เช่น ภาพ Pope Paul III and His Grandsons และ Self-Portrait (1567) เป็นต้น
ภาพวาดส่วนหัวของเมดูซ่า เราว่าหลานๆ คนก็คงคุ้นตากันอยู่บ้าง
เทคนิคการใช้สี เล่นแสง จิตกรเก่งมากที่วาดภาพออกมาได้มีชีวิตชีวาราวกับรูปถ่าย
เดินเกือบ 4 ชั่วโมง มันรู้สึกอิ่ม ฟูล ประทับใจสุดจะพรรณา ขนาดว่าเราไม่ใช่จิตกร เราเป็นแค่คนๆ นึงที่สนใจงานศิลปะแต่ไม่ได้คลั่งไคล้อะไรปาณนั้น แอบบ่นให้กับค่าตั๋วที่ค่อนข้างแพง แต่พอเดินชมรอบๆ แล้ว บอกเลยว่า ค่าตั๋วไม่แพงเลยสำหรับที่นี่ มันคุ้มค่ามาก
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
